เล่นเกมในวัยแก่

Clip_8

จากตอนก่อนที่อัพเกรดคอม เหตุผลหลักอันนี้คือเกมนี้ครับ Rockman 11

หลังจากที่เป็นแฟนซีรีย์นี้มาตั้งแต่ rockman 4 ด้วยความสนุกและเป็นเอกลักษณ์เลยตามหาและติดตามไปทุกภาค จนมาหยุดที่ภาค 8 เพราะภาค 9 กับ 10 ดันย้อนกลับไปเป็นแบบ 8 bit แถมลงแค่ ps4 แบบต้องโหลดมาเล่น หรือซีรีย์ x ที่หลังๆออกทะเลไปเป็นแนวปาร์ตี้ตัวละครเยอะแยะ 3 มิติ (โซนิคก็เช่นกัน เกลียดมาก) พร้อมกับเสียงลือว่าซีรีย์นี้มันเจ๊งบ๊งไปแล้วเพราะขายไม่ดี จนมาปีที่แล้วประกาศภาคใหม่ 11 ด้วยกราฟฟิคแบบใหม่ ด้วยรูปแบบ 2D platform แบบเดิม งานนี้ไม่มีพลาดครับ คิดไว้ว่าต้องเล่นให้ได้ จนหลังอัพเกรดคอมก็ลงเป็นเกมย้อนความหลังกันหน่อย

ตัวเกมดีมากครับ ชอบมากกว่าภาค 8 ที่ออกทะเลเลอะเทอะมนุษย์ต่างดาวไป ทั้งกราฟฟิคและลูกกระจ๊อกที่สดใหม่ลื่นไหลมาก ติดอย่างเดียวครับ

มันยากจังวุ้ย

เล่นแบบความยากปกติผ่านไปแค่ไม่กี่ด่าน เลยต้องเปลี่ยนมาเล่นแบบง่ายสุดถึงจบได้เห็นตามภาพข้างบนได้ หลังจากจบนึกย้อนกลับไปที่ภาคเก่าๆ เหมือนมันยากกว่านี้นี่หว่า ทำไมสมัยนั้นมันเล่นจบได้แฮะ ตรงนี้พี่ให้เหตุผลไว้ว่า พอแก่แล้วมันหมดความท้าทาย เมื่อตอนเด็กเวลาเจออะไรยากๆก็จะลองซ้ำๆไปจนกว่าจะชนะแล้วผ่านไปได้ แต่พอแก่แล้วมันเริ่มหมดความท้าทายที่จะชนะ ผลคือเมื่อแพ้แล้วจะเบื่อเร็ว อย่างนี้ต้องเล่นเกมให้บ่อยขึ้นให้เกิด passion ที่จะเอาชนะให้ได้ซะแล้ว แต่เอ๊ะ…

เราหมด passion หรือ ฝีมือกระจอกกว่าเดิมกันนะ

 

Upgrade !!

ในยุคที่อุปกรณ์ไอทีไปแนวสำเร็จรูปอย่างมือถือ แทบเลท โน๊ตบุ้ค ที่จ่ายทีเดียวจบครบเครื่อง เลยมาขอเรื่องเล่าของพวกคนโบราณอย่างการอัพเกรด pc หลังจากห่างหายไปนานครับ

เหตุเกิดจากเกมสมัยใหม่ต่างย้ายไปเป็นระบบ 64 bit เกือบทั้งหมด ก็ถึงคราวต้องลง window ใหม่ แต่จะลงใหม่อย่างเดียวทั้งทีก็ใช่เรื่อง ไหนๆเหนื่อยทั้งทียกเครื่องใหม่ไปเลยดีกว่า

จากเครื่องเดิม core i5 3450 การ์ดจอ gts 250 ตัวหลักตั้งแต่ปี 2012 ระหว่างนั้นก็เปลี่ยน/เพิ่ม กระจุ๊กกระจิ๊กไปเรื่อย แรม ฮาร์ดดิสก์ พาวเวอร์ จนมายุคปัจจุบัน cpu ก็ปาเข้าไป gen 9 แล้วแต่ราคาแพงเหลือเกิน

แต่แล้วก็โชคดีที่ “ช่วงที่คิดจะอัพเกรดคอม” เกิดตัว 9400f cpu ที่เป็นตัวขายไม่พ่วงเบียร์ ไม่ต้องมีกราฟฟิคมาแฝงด้วยเพราะไงๆก็ต้องซื้อการ์ดจออยู่แล้ว เลยคิดว่าตอนนี้แหล่ะคือโอกาสเหมาะ

เป้าหมายคือคอมสเปคกลางๆ ส่วนการ์ดจอที่เล็งไว้ก็ตัว gtx1060 เพราะตัวท๊อปอย่าง 1080 หรืออีกสถาปัตย์อย่าง rtx ก็ราคาสูงเกิน ลองจัดสเปคจากเวบที่ให้บริการอย่าง jib advice หรือ notebookspec ก็ได้สเปคในใจละ ว่าจะไปอัพประมาณ 20-21 เม.ย. แต่พอเอาเข้าจริงเงินไม่มีครับ เลยไม่ได้อัพ ต้องถัดไปอีกสัปดาห์ ปรากฎว่า…หา 1060 ไม่เจอแล้วครับ ไปเจอแต่ตัวเลขใกล้ๆกันคือ gtx1660 ที่แรงกว่าและราคาถูกกว่า เลขถือว่าเป็นโชคที่ไม่มีตังค์ครับ สรุปสเปคใหม่ที่จะไปจัดคือ core i5 9400f การ์ดจอ gtx1660

เมื่อจัดสเปคเสร็จก็เซฟหน้าจอแล้วเดินทางไปยัง อดีตเมืองหลวงของชาวไอที “พันทิพย์ พลาซ่า” เดินเข้าไปก็นึกถึงตอนสมัยเด็กที่พ่อพามาซื้อคอม สมัยนั้นพ่อจะมีสมุดพกหนึ่งเล่มกับปากกาหนึ่งด้าม โดยแต่ละร้านจะปรินต์ใบราคาแขวนไว้หน้าร้านเต็มเหยียด พ่อก็ดูตามร้านพลางจดราคาสเปคที่ต้องการลงบนสมุดพกนั้น สมัยนั้นยังไม่มีร้านใหญ่อย่าง jib หรือ banana it ครับ จะมีก็แต่ it city โดยแต่ละร้านราคาบางตัวถูกกว่า บางตัวแพงกว่า เมื่อเช็คราคาแล้วก็ซื้อแยกส่วนในร้านที่ราคาถูกที่สุดแล้วไปประกอบที่ร้านรับลง window (สมัยนั้นไม่ได้หาโหลดโปรแกรมง่ายแบบสมัยนี้นะ) เสร็จแล้วรอประมาณ 1 ชั่วโมงก็ได้คอมพิวเตอร์กลับไปใช้งาน นึกถึงสมัยนั้นก็สนุกดีครับ มีความรู้สึกว่าคนที่จะไปซื้อคอมนี่ต้องเก่งมากเลย

กลับมาปัจจุบัน ร้านที่ผมไปเช็คราคามีอยู่ 3 ที่ครับ คือ jib ที่มีจัดงานลดแลกแจกแถมอยู่ชั้นล่างพอดี advice และร้าน speed ที่คุ้นเคยกับการหาซื้อ handy drive เพราะมีให้เลือกหลากหลายที่สุด มาถึงสมัยนี้ไม่มีราคาให้จดแล้วครับ เพราะข้อมูลมีอยู่บนเวบไซต์ทั้งหมด พอถามราคาพนักงานก็จะไปกดหาจากในเนตนี่แหล่ะ พอเห็นอุปกรณืที่เราไม่ได้หาราคามาแล้วอยากรู้ก็ต้องถามพนักงานทีนึง ไม่สามารถเดินเลียบๆเคียงๆแบบแต่ก่อนได้แล้ว (กดหาในเนตเองก็ช้ากว่า) เดินวนเช็คราคาอยู่นานสรุปได้ประมาณว่า ร้าน advice ถูกสุด (ไม่ทุกตัว) แต่ของไม่ค่อยมี (อยากได้ mainboard รหัส H…) เลยไปจบลงที่ร้าน speed ที่การ์ดจอถูกสุดครับ รอประมาณ 2 ชั่วโมง เอ๊ะ วินโดว์ก็ไม่ต้องลงทำไมช้า ปรากฎว่าเขาพยายามลงไดรเวอร์การ์ดจออยู่แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากใหม่เกินไปต้องอัพเดทวินโดว์ถึงจะรู้จักกัน เลยให้เอาไปอัพที่บ้านเองก็สำเร็จได้ด้วยดี

กลับมาบ้านได้คอมใหม่
mainboard H77 > H370
cpu core i5 3450 > 9400f
gpu gts 250 > gtx 1660
ram 1333 4Gb > 2666 8Gb
hdd 2 Tb barracuda (ของเดิม 1+1 รวมเป็น 4 Tb)
psu 530 W ของเดิม
case ของเดิม
หมดไป 2 หมื่นกับเศษไม่ถึงพัน แฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่ที่ฟินกว่านั้นคือการได้รำลึกถึงบรรยากาศเดิมๆที่เดินตามพ่อไปซื้อคอมนี่แหล่ะ ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือจำนวนผู้คนที่อยู่ในนั้น สมัยก่อนนี่แน่นอย่างกับมาบุญครอง แต่ปัจจุบันร้างคนมาก ยังไงก็ขอให้ยังอยู่คู่สาวกชาวไอทีแก่ๆคนนี้ต่อไปนะ ตอนไปนี่ก็พาเจ้าตัวเล็กไปด้วยเผื่อจะซึมซับบรรยากาศจากพ่อบ้าง 555

ข้อคิดนิดหน่อยเรื่องไอที : ซื้อก่อนใช้ก่อน อย่าเสียดายเพราะยังไงราคาก็ลง แต่ถ้าจะให้ดีก็เช็คราคานิดนึงว่าตัวใหม่มันยังไม่ออกเร็วๆนี้

20190428_100418946_iOS

คุณพ่อในหนัง

เนื่องในวโรกาสที่ชาวไทยถือว่าวันพรุ่งนี้เป็นวันพ่อ ก็จะเห็นข้อความแสดงออกถึงความรักพ่อมากมายตามโซเชีบลมีเดีย (แปลว่าปกติแม่งไม่ค่อยทำดีหรือสำนึกบุญคุณให้พ่อมันนักหรอก) น้อยหน้าได้ที่ไหน เราก็ขอเกาะกระแสวันพ่อบ้าง เอาเป็นประเด็นเรื่อง…หนังละกัน

เมื่อประมาณ 2-3 เดือนก่อนได้ไปทำงานที่เขื่อนฯด้วยว่าอยู่คนเดียวก็เลยหาอะไรแก้เซ็งสักหน่อย ว่าแล้วก็ขับรถไปโรบินสัน กันนะจ๊ะบุรี หาซื้อหนังลดราคามานั่งดู 3 เรื่อง 99 ก็ซื้อจากหน้าปกตามนิสัยน่ะนะ ออกแบบปกดีโอกาสได้ตังค์จากเราก็เยอะหน่อย ซึ่งก็ปกติของกองหนังลดราคาที่ออกจะโนเนมไปสักนิดนั่นแหล่ะ พอหลังจากเอาไปดูก็เอ่อ…ตามราคาเนอะ (เรื่องนึงที่ยูลบีนเนอร์แสดงเป็นชาวมายัน เนื้อหาจับฉ่ายชิบ แถมตัวยูลเองก็เดินหนีบยังกะตุ๊ด อ๊ะ เดี๋ยวนอกประเด็นไปไกล) แต่ก็มีเรื่องนึงที่ดูแล้วประทับใจมาก ว่าจะเก็บมาเขียนบลอกเกี่ยวกับ “พ่อ…พ่อ” นี่แหล่ะ

เรื่องนี้เลยครับ The Road

The Road ก็ไม่ใช่หนังดังอะไรหรอกนะ เป็นแนวประมาณพ่อ-ลูกเดินในเรื่อง “ต้องรอด” ยุคที่ทุกสิ่งเสื่อมไปหมดแล้ว ตัวหนังไม่ใช่เรื่องความรัก แสดงแนวคิด โรแมนติค หรืออะไรทั้งหลายแหล่ที่คนปกติจะดูแล้วประทับใจกันหรอกครับ แต่ผมดูเรื่องนี้แล้วสามารถรู้สึกได้เองเลยว่า

“นี่แหล่ะ พ่อของผม”

พ่อที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกอยู่รอดได้ …ฟังดูก็เหมอนจะมีแนวนี้อยู่อย่างโหลๆนะ แต่ที่เรื่องนี้พิเศษสำหรับผมคือ

ความรักลูกแบบสุดขีดในมิติของมนุษย์จริง

ตัวพ่อในเรื่อง (มันไม่ตั้งชื่อตัวละครให้หนิ) ไม่ใช่แนวพระเอกจ๋า ไม่ได้มีกำลังวังชาเหนือคนทั่วไป ไม่ใช่คนดีอย่างไร้ข้อกังขา ซาบซึ้ง แบบโฆษณาชวนเชื่อล้างสมองให้คนโง่หลงเชื่อมาหลายชั่วโคตร แบบที่หลายเรื่องเขียนบทให้เป็นกัน (อย่างอามาเกดดอน ตอนจบหลายคนซาบซึ้ง แต่ผมว่าแม่งโคตรเน่า) แต่ “คุณพ่อ” ของเรื่องจะออกแนว …อธิบายยังไงดีล่ะ… “แตะลูกกูมึงตาย” ละกัน สั้นๆง่ายๆ ในเรื่องพยายามสอนให้ลูกเป็นคนดี แต่พอเจอหลายสถานการณ์ด้วยความที่ต้องดูแลลูกให้ได้ จนตัวเองต้องกลายเป็นคนเลวในสายตาคนอื่นเสียเอง
ลองนึกเหตุการณ์สมมุติเล่นๆดูครับว่าถ้ารู้ว่ามีคนมาชกลูกคุณคุณจะทำยังไง A.สอนลูกว่าทำอย่างนี้ไม่ดีอย่าไปทำกับคนอื่นนะจ๊ะๆ B.ฟ้องตำรวจทำตามขั้นตอน C.หามันให้เจอแล้วให้มันชดใช้อย่างสาสม ไม่ต้องตอบนะครับคิดไว้ในใจเพราะคำตอบบนแผ่นกระดาษที่กาไปแล้วถูกแน่นอนกับคำตอบในชีวิตจริงที่มีเรื่องของอารมณ์และความรู้สึกมาเกี่ยวข้องอาจไม่ตรงกันนะ ก็แล้วแต่ความดัดจริตส่วนบุคคล

พิมพ์ต่อเดี๋ยวจะกลายเป็นสปอยล์เรื่องเขา เอาเป็นว่าหากใครไม่มีที่ไปอยากให้ลองไปนั่งดูในวันหยุดวันพ่อละกันครับ บอกตามตรงว่า

พอตอนจบ ผมงี้น้ำตาไหลเลยครับ

My Boss

ที่วันหยุดสุดสัปดาห์หนึ่งที่ต่างจังหวัด

ตื่นมาลุกขึ้นงัวเงีย กินข้าวเสร็จก็ไม่มีอะไรทำไปนุ่งดูงานก่อสร้างฟังเสียงตอกเข็ม ตึง ตึง

มองไปที่หมวกคนงานแล้วก็นึกถึง “เมททอล” จากเกม rockman ซึ่งเป็นซีรีย์เกมที่ชอบมากที่สุด

ถึงขนาดช่วงหนึ่งของชีวิตเคยเขียนการ์ตูนแล้วออกแบบบอสเอง …วาดไปได้สัก 4 ภาค แล้วก็ไม่มีเวลาวาดต่อ

จุดเด่นของเกมนี้ผมว่ามันคือ “เอกลักษณ์” ที่พอมองปุ๊บก็บอกได้เลยว่ามาจากเกมนี้แน่นอน ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มในการวาดการ์ตูนเลียนแบบเกมนี้

เพราะฝันของเด็กๆ

อยากวาดบอสในแบบของเรา

จะเรียกว่าหลงใหล หรือคลั่งใคล้ก็ตามแต่ สมัยก่อนนั้นเลือกกันกับพี่เลือกบอสตัวที่ชอบคนละ 2 ตัวห้ามซ้ำกัน ตอนนั้นพวกผมเรียกันว่า “จองบอส” ซึ่งพอหนังสือเกมลงข่าวว่าเกม rockman จะออกภาคใหม่มักจะลงโฉมหน้าของบอสในภาคนั้น เราก็เริ่มจองบอสกันตั้งแต่ตอนนั้นล่ะ พอหลังจากเกมออกก็มานั่งลุ้นกันว่าบอสที่เลือกนั้นเก่งอ๊ะ ป่าว

ในแต่ละภาคที่เคยเล่นผมจองบอสตัวไหนไว้มั่งมาดูกันเลย

Rockman

ภาคแรกภาคนี้มาเคยเล่นก็ตอนเป็นอีมูเลเตอร์เล่นในคอม แต่ตอนนั้นก็จองบอสจากการ์ตูนของตาเชย (… ที่เรียกว่าตาเชย เพราะแกแต่งเป็นแบบแผนตามเกมเด๊ะๆมาก แต่ลายวาดผมว่าใกล้เคียงต้นแบบมากที่สุด) ภาคนี้ผมชอบสองตัวนี้ครับ

xxx

Iceman ชอบเพราะมันทำปากจู๋ และตาปรือตลอด เท่านั้นเอง

xxx

Cutman ชอบเพราะรูปร่างมันเหมือนพระเอกเลย แค่เปลี่ยนหัวนิดหน่อย

Rockman 2

ภาคนี้ตอนเป็นตลับเกม ใช้เช่าจากร้านเกม วันละ 20 บาท ไม่ได้เล่นเองหรอกครับ นั่งดูพี่เล่นอย่างเดียว เพราะเช่ามาทั้งทีต้องเล่นให้จบในวันเดียว ภาคนี้โหดมากโดยเฉพาะบอสใหญ่ แตะทีเกือบตาย โดนถุยน้ำลายก็ 4 ที่ตาย ถึงขั้นด่าคนสร้างเกมกันเลยทีเดียว ภาคนี้ผมชอบสองตัวนี้ครับ

xxx

Metalman ชอบเพราะมันหล่อครับ เท่ห์มากตัวนี้ ถึงจะไม่ค่อยเก่งก็เหอะ

xxx

Flashman เหลือเลือกครับ 555 แต่เป็นบอสตัวแรกที่หยุดเวลาได้นะ

Rockman 3

ภาคนี้มีตลับเป็นของตัวเอง เล่นแล้วเล่นอีก เพราะเกมทำมาอย่างคุ้มค่ากันอย่างถ้วนหน้า เหมือนซื้อภาคเดียว ได้เล่นภาค 2 ด้วย

xxx

Geminiman ชอบเพราะมันเก่ง แถมแยกร่างได้ด้วย แต่รู้สึกตอนเอ็งเหลือตัวเดียวแล้วยิงเจมินี่เลเซอร์เด้งไปเด้งมาแล้วเก่งกว่านะ

xxx

Snakeman เหลือเลือกอีกตัว ชอบที่พอมันกระโดดแล้วชูมือ (ที่จริงเป็นหางมันตะหาก)

Rockman 4

ภาคแรกที่เล่นแล้วติดใจจนต้องไปหาภาคเก่าๆมาเล่นให้ครบ พอซื้อเครื่องเอง (FR202) แถมเกมหนึ่งตลับ (คือ 400 in 1) เกมแรกที่ซื้อพร้อมเครื่องก็ร้อคแมนภาคนี้เอง

xxx

Skullman ชอบเพราะมันเท่ห์ครับ กับความประทับใจในวัยเด็กที่เคยวาดการ์ตูน “มนุษย์ไข่” แล้วไอหมอนี่ก็หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงเหลือเกิน ทำให้เป๊ะ ตั้งแต่แรกเจอเลย

xxx

Toadman ชอบระบำหน้าท้องเรียกฝนของมันครับ 555

Rockman 5

ภาคแรกที่บีทปรากฎตัว ชนแรงมาก และมีร้อคเพลทให้สะสมที่จะซ่อนอยู่แต่ละจุดในด่าน (ถือเป็นภาคแรกที่ต้องสะสมไอเทมระหว่างเล่นในด่านด้วย … อ๊ะ ภาคแรกคือภาค 4 สิ เพราะมีบอลลูน กับร้อคไวเออร์นี่นา ภาค 5 นับเป็นส่วนเติมเต็มละกัน)

xxx

Starman ชอบตัวหล่ออีกแล้ว 555 ฝีมือไม่ได้เรื่องได้ราวหรอก แต่มันเท่ห์จริงๆ

xxx

Crystalman มันเก่งครับ แล้วด่านมันก็เป็นผลึกๆสวยด้วย

Rockman 6

ร้อคแมนนานาชาติ ภาคนี้เล่นสนุกครับเพราะรู้สึกความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชาติที่เพิ่มขึ้นมาจากภาคก่อนๆ และไม่ค่อยยากด้วย มีการประกอบร่างระหว่างพระเอกและหมา

xxx

Tomahawkman มนุษย์อินเดียแดง ดูเถื่อนและแข็งแกร่งดี อาวุธของมันมีประโยชน์ดีอีกด้วย (ใช้แล้วลดแค่ขีดเดียว แถมแรง)

xxx

Centaurman ตัวนี้มันแปลกดีครับ ตัวเป็นม้า แต่ไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่

Rockman 7

ก้าวข้ามแพลทฟอร์มมาสู่เครื่องเล่น 16 bit กราฟิคที่อัพเกรดขึ้นใหม่สร้างความตื่นตาตื่นใจมาก ภาคนี้ผมชอบสองตัวนี้ครับ

xxx

Slashman ชอบเพราะความหล่ออีกละ ตั้งกะเปิดตัวมาให้เห็นในนิตยสารเกมแมกก็เป๊ะลงที่ตัวนี้เลย

xxx

Junkman บาเรียร์ของมันนี่โจมตีทรงพลังดี จากภาคก่อนๆพวกบาเรียร์ไม่ค่อยมีประโยชน์เล้ย

Rockman 8

ภาคนี้เคยเล่นจบอยู่หนหนึ่ง แต่ผมว่าบอสมันไม่มีเสน่ห์ในการจับจอง ประกอบกับพี่ผมไม่เล่น เลยไม่ได้ของภาคนี้เลยครับ

Rockman 9 – 10

สองภาคนี้ไม่เคยเล่น เลยไม่ได้สนใจเลยครับ

Rockman & Forte

ภาคนี้ไม่ได้จองอีกแหล่ะ เหตุผลเดียวกับภาค 8

หมดภาคธรรมดาแล้วมาต่อกับภาคต่อขยาย ยกเครื่องใหม่หมด ต้อนรับการอัพแพลทฟอร์มจาก 8 bit เป็น 16 bit เปลี่ยนชื่อตัวละครจากดนตรี เป็นเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ ทำให้ซีรีย์ต่อขยายนี้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกับ “Rockman X

ซีรีย์นี้เริ่มเล่นเลยตั้งแต่ภาค 1 ออก ตอนนั้นพี่ดันซื้อตลับมาก่อนจะมีเครื่อง SFC เล่นในบ้านซะอีก แต่ในเมื่อมีมาแล้วก็ต้องจัดแล้วล่ะ

Rockman X

ภาคแรก ติดตาติดใจกับหน้าปกและการออกแบบบอสใหม่ ดูมีรายละเอียดมากขึ้นให้สมกับ 16 bit บอสแต่ละตัวนั้นเหมือนอิงกับสัตว์ ผมชอบสองตัวนี้ครับ (ชื่อบอสที่ผมใช้ไม่ตรงกับที่ถูกต้องนะครับ เพราะชื่อภาษาอังกฤษแล้วมันทื่อพิกล) ตอนเล่นนั้นซื้อตลับก๊อป ซึ่งต้องเล่นระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะถ้ายิงกระสุนไปแล้ว “เป๊ง” โอกาสโดนยึดเกราะแล้วไปเริ่มด่านแรกที่ไฮเวย์ จะสูงมาก ภาคนี้มีท่าไม้ตายพิเศษด้วยนะ “อะบู๊กิด” เหมือนเพื่อโปรโมตเกมสตรีทไฟเตอร์ที่อายุราวคราวเดียวกัน เพราะประโยชน์ของมันนั้น …น้อยมากถึงไม่มี แม้จะทีเดียวตายเรียบ แต่โอกาสใช้มันช่างน้อยนิด

xxx

Storm Eagreed เสร็จความเท่ห์อีกตายเคย 555

xxx

Burnin Normandur พี่ช้างแมมมอธ (ช้างนอมันตะหาก 555) เพราะชอบบอสตัวใหญ่ครับ ไม่เคยเจอบอสแล้วตัวใหญ่มาก่อน (ภาคนี้เลือกตัวไม่เก่งทั้งคู่เลยแฮะ)

Rockman X2

ภาคนี้เขาโปรเทคแผ่นครับ ต้องแผ่นแท้เท่านั้น เลยไม่ได้เล่นไป ต้องจองบอสจากหน้าหนังสือเกมแมกอีกแล้ว (มาได้เล่นตอนเป็นอีมูเลเตอร์ บนคอมพิวเตอร์)

xxx

Wire Hetimal ชอบเพราะไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไรครับ แปลกดี

xxx

Bubbly Crabos เพราะหน้ามันตลก ยังกับลูกกระจ๊อก (แต่ในเกมผมว่ามันก็เก่งนะ) ส่วนตัวเท่ห์ทั้งสอง (ตัวที่คุณก็รู้ว่าใคร 555) พี่ผมจองไปละ

Rockman X3

ภาคนี้แผ่นแท้โปรเทคแผ่นอีกแล้ว แต่เอาน่ะ อยากเล่น กัดฟันซื้อประมาณสองพันบาท (เงินพี่ 555) หนังสือเกมแมกมาปุ๊บ จองปั๊บ

xxx

Shining Tigard แบบว่าชอบเสืออ่ะ เทห์ดี แต่ไม่เก่งเลย

xxx

Screw Mazieder

Rockman X4

ข้ามมาเครื่อง ps ตอนเกมออก ไม่มีเครื่องอีกละ ภาคนี้ออกมาไร่เรี่ยกันกับภาค 8 แต่ภาค 8 ไม่ค่อยน่าเล่น เลยยังไม่มีเหตุผลให้ซื้อเครื่องเกมใหม่เท่าไหร่ แต่เจอเพื่อนเอาหนังสือบทสรุป Final Fantasy 7 มาอ่านแล้วน่าเล่นชะมัด เหตุผลในการซื้อเครื่อง ps เริ่มมีมากขึ้นอย่างมีนัยยะแล้วสิ ว่าแล้วก็จัดเลย

xxx

Magmard Dragoon ชอบเพราะมันเท่ห์อีกแหล่ะ ท่าแต่ละท่าดูทรงพลังดี

xxx

Cyber Peacock ไอนกยูง ชอบสีสันมันเยอะดี แต่ท่าทางตุ๊ดชะมัด แถมชื่อจำยาก

Parellel world

เคยไหมกับการได้ไปยืนในสถานที่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พบคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก

เมื่อวันก่อนนอนฝัน เรื่องมีอยู่ว่า

“นั่งรถไปลงเรือสำราญในทะเลสาบที่จ.อุบลราชธานี นั่งอยู่ในเรือมองน้ำใสเห็นปลา ริมฝั่งสวยงาม ตึกรามบ้านช่องสูงตระหง่าน เปิดไฟแสงสีรานตา”

… อุบลฯมันมีที่หยั่งงั้นที่ไหนล่ะฟระ !!!

คนที่ไปด้วยมันนอนกลิ้งอยู่ข้างๆ ไปเห็นในฝันไม่แปลก แต่วิวที่เห็นมันมาจากไหน

ให้เดาง่ายๆคงเป็นการรวมกันระหว่างทะเลสาบที่เคยไป กับวิวตึกของเมกาหรือฮ่องกง พอฝันทำไรก็ได้ เลยเอามารวมกัน

เอ๊ะ หรือว่ามันเป็นสิ่งที่ตัวเราในอีกโลกที่เรียกว่าโลกขนานเห็น แล้วเชื่อมต่อมายังฝันของเรา

ที่โลกนั้นจังหวัดอุบลฯอาจจะพัฒนาไปไกลและสวยงามเป็นอย่างที่เห็นในฝันก็ได้

เมื่อแยกอดีต – ปัจจุบัน – อนาคต การตัดสินใจในอดีตที่ต่างกันจะเกิดผลในปัจจุบันที่ต่างกัน เรียกว่า โลกขนาน

ประมาณว่า “ถ้าเราทำยังงั้นแล้ว จะเป็นยังไงน้า ชีวิตเราอาจเป็นอีกอย่างก็ได้”

หยั่งงี้หลายต่อหลายครั้งที่เจอ ใครก็ไม่รู้ ไม่รู้จักหน้าค่าตามาก่อน แต่กลับมีรายละเอียดในฝันมากมาย

บ้างก็ว่าเป็นคนเมื่อชาติก่อน บ้างก็ว่าเป็นคนตัวประกอบเมื่อเร็วๆนี้ที่เราไม่ได้สังเกตุเฉยๆ หรือมันเป็นคนที่เรารู้จักอย่างดีในโลกขนานหว่า

เพ้อตัดจบดื้อๆ ฝันคือฝันแหล่ะ มันคือไรไม่รู้หรอก แต่ถ้าสนุกก็โอเค เหอะ เหอะ

 

 

ปล.แล้วทำไมต้องจังหวัดอุบลฟระ หรือเพราะรู้สึกว่ามันด้อยพัฒนา บ้านน้อก บ้านนอก เลยฝันเอาตึกใหญ่ๆไปตั้งซะ 555

Shot of the month: ก.พ. 2554

เอ๊ะ รูปตึกธรรมดานี่มัน shot เด็ดตรงไหนว้า ไม่มีอะไรเด่น แถมไม่น่าสนใจ

shot ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง รูปที่ยิงออกมา หากแต่หมายถึงกาลเวลา ณ ช่วงหนึ่งนี่สิ

ในคืนวันที่ 17 ก.พ. มีเพื่อนหน้าตาดีโทรศัพท์มาแล้วกล่าวว่า “ไปเล่นเพนท์บอลกัน”

เอาล่ะดิ ไอขี้เกียจมันก็ขี้เกียจ แต่ไม่เคยเล่นก็อยากลอง

คุยถ่วงเวลาคิดไปซะครึ่ง ชม.

มุมแดง

– เอ้ คนชวนเขาก็น่ารัก นานที 10ปีหน จะเอ่ยปากโทรมาชวน

มุมน้ำเงิน

– ไม่ค่อยชอบแนวออกกำลังแฮะ ขี้เกียจ ถ้าเดินเที่ยวถ่ายรูปชิวๆก็ว่าไปอย่าง

– ไปนี่ไปเป็นตัวประกอบการเดทแบบทริปทีลอซูไอนะป่าวหว่า ดูรายชื่อแนวร่วมแล้วชักเสียวๆ

– คนที่ไปด้วยนี่เขาไปเที่ยวกันบ่อยมาก ถ้าเราไปจะเป็นหมาหัวเน่าป่ะน้อ

ติ๊ก ๆๆๆๆๆ แก๊งงๆๆๆๆๆ!

มุมน้ำเงินชนะน๊อก ยก 7

จึงตอบไปว่า

“วันหยุดตื่นสายน่ะ ไปเล่นกันก่อนเลยละกัน เดี๋ยวตามไป”

แหม่ๆ ข้ออ้างก็ว่าดีเหมาะสม และเป็นธรรมชาติแล้วเชียว

วันรุ่งขึ้นที่บ้านชวนไปเที่ยวซาฟารี ปาร์ค

เออ น่าไปอยู่ไปก็ไปไปเลย ออกจากบ้าน 9 โมงเช้า

แต่ก่อนหน้านั้นแม่ไปเอาเนื้อที่ลืมไว้ในตู้เย็นก่อนเลยแวะไปที่ทำงาน

ระหว่างรอไม่มีอะไรทำเลยเอากล้องลงไปถ่ายรูปเล่น

แชะ!! (รูปที่เห็นข้างบนนั่นแหล่ะ)

ทันใดนั้น

“ปิ๊นๆ”

แนวร่วมคนหนึ่งขับรถผ่านมาพอดี

“อ้าว t ไปเล่นเพนท์บอลป่ะเนี่ย”

“แวะมาเอาของที่ k ลืมไว้”

กรรม อะไรมันจะคลาสสิคขนาดเน้

ไอที่บอกว่าขี้เกียจตื่น แต่ดันมาหลั่นล้าในที่ทำงานแต่เช้านี่มัน…

555 โดนงอนตามระเบียบ

อีก 1 กันยา

ลากผ่านสิงหาแสนเกลียดที่ทำท่าจะซ้ำรอยกับปีก่อน
จองพื้นที่สำหรับเดือนกันยา ไว้มีเวลาจะมาพิมพ์

เส้นขนาน/เส้นตัด

หลายครั้งที่คนมักจะเปรียบชีวิตรักที่ไม่สมหวังว่าเหมือนเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันมาพบกัน
เอ …แล้วต้องสองเส้นยังไง ถึงจะเรียกว่าดีหว่า จะเส้นขนานหรือเส้นที่ตัดกัน
เส้นขนาน – เส้นคู่ที่เดินร่วมทางกัน แม้จะไม่พบเจอกัน แต่คอยปกป้องและอยู่เคียงข้างกันและกันตลอดเส้นทาง หรือถ้าขนานกันใกล้เข้า ใกล้เข้า จนใกล้ที่สุด เส้นขนานทั้งสองเส้นก็จะเป็นเส้นเดียวกัน และจะอยู่ร่วมกันตลอดตราบนานเท่านาน
เส้นตัด – แม้ครั้งหนึ่งของชีวิตจะได้เดินบนทางเดียวกัน แต่หลังจากที่ตัดกันแล้วทั้ง 2เส้นก็จะห่างออกจากกันไปเรื่อยๆ …และไม่มีวันได้พบกันอีกเลย …ตลอดกาล
 
 
แต่อย่างเราเส้นคู่พาราโบล่าน่าจะเหมาะสุดแฮะ ระฆังหงาย กับระฆังคว่ำ ที่เกือบบรรจบกัน แต่ไม่แตะกัน
มาจนจุดใกล้สุดแล้วก็ตีห่างสุดกู่ เซ็งจริงๆ
 

ครบรอบ 10ขวบ

อ๊ะๆ กำลังคิดอยู่ว่าไอนี่มาโกงอายุ 10ขวบไรแถวนี้อ่ะเด่ะ
10 ปีที่แล้วก็…1999
เอ๊ะ 1999 เลขนี้มันเกี่ยวยังไงน้า ก็ไอเมล t**1999 น่ะสิ
เป็นเลขปีที่สมัครเมลนี้ (ด้วยความมักง่ายในตอนตั้งคราวนั้น)
จะว่าเป็นเมลแรกก็ไม่ใช่ เพราะเมลแรกมัน t**100@hotmail.com
แต่ด้วยความโลภ เห็น yahoo ให้ 4M แต่ hotmail ให้แค่ 2M เลยเอานี่แหล่ะว้า
ด้วยความเก่าแก่ของเมลนี้ มันเลยเป็นเหตุผลที่ไม่ค่อยเปลี่ยนเมลล่ะน้า
คนบ้าไรใช้เมล yahoo ออน เอ็ม 55+

จองพื้นที่เดือน มีนา

มีนาปีนี้มีอะไรวุ่นวายเกิดขึ้นมากมาย
แต่ก็นับเป็นเรื่องที่สนุกแปลกใหม่ดี
ถ้าใครได้แวะเวียนเข้าไปในมัลติไพล์
ก็ขอบอกเลยว่า เรื่องนั้น+คนนั้นน่ะแหล่ะ
และแล้วก็จบซะทีทั้งโล่งอก ทั้งเสียดาย
คิดๆไป เรามันนึกซ่า+คึกไรหว่า …ทำไปได้  
ไว้มีเวลา+ไม่ขี้เกียจค่อยกลับมาเล่า